วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2562

พาไปชม วัดปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว "วัดเขาอังคาร" จังหวัดบุรีรัมย์


วัดเขาอังคาร หรือ วัดเขาพระอังคาร เป็นวัดที่มีวัตถุธรรมความสวยงามของวัดพุทธศิลป์สร้างมานานในยุคที่ขอมเรืองอำนาจความสวยงามของวัดพุทธศิลป์ผสมศิลป์ขอม แนวเดียวกันกับปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ส่วนสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่เห็นในวัดปัจจุบัน
ส่วนใหญ่สร้างใหม่ทับของเก่า มีโบสถ์ที่ประยุกต์จากสถาปัตยกรรมหลายสมัย ดูสวยงามแปลกตา เป็นวัดที่สวยงามใหญ่โตแห่งหนึ่งของบุรีรัมย์ มีโบสถ์ ศาลา และอาคารต่างๆ ตั้งอยู่บนยอดเขาอังคาร ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 320 เมตร อยู่ห่างจากหมู่บ้านเจริญสุข ประมาณ 3 กิโลเมตร ในตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ 

สันนิษฐานว่าสร้างมาในสมัยเดียวกับปราสาทหินพนมรุ้ง หรือในยุคที่ขอมเรืองอำนาจ เป็นวัดที่มีความสวยงาม ใหญ่โตแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โบสถ์ 3 ยอด ซึ่งภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง และเรื่องราวชาดกเป็นภาษาอังกฤษ ใบเสมาพันปี พระพิฆเนศงาเดียว พระพุทธ 109 องค์ พระตำหนักศักดิ์สิทธิ์ เทวรูปเจ้าเมืองขอม ฯลฯ




 เขาอังคารเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว บริเวณที่ตั้งวัด เป็นปากปล่องภูเขาไฟ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นที่ตั้งโบราณสถานสมัยทวารวดีเพราะพบเสมาหินแกะสลักเป็นจำนวนมาก เขาอังคาร มองจากที่สูงเป็นรูปคล้ายพญาครุฑกำลังกระพือปีกหรือคว่ำหน้า โดยหันหัวไปทางใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านถาวร 

ส่วนลำตัวต้นปีกซ้าย เป็นโบราณวัตถุและพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้า ปีกซ้ายเนินเขายื่นไปทางทิศตะวันออก เป็นหมู่บ้านเจริญสุข ส่วนหางไปทางทิศเหนือ คือ บ้านสวายสอ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เขาอังคารครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 90 ตารางกิโลเมตร




ความเป็นมาของภูเขาพระอังคาร

ภูเขาพระอังคาร เดิมชื่อ ภูเขาลอย เหตุที่เรียกว่าภูเขาพระอังคาร เพราะตามประวัติลายแทงธาตุพนม กล่าวไว้ว่า เมื่อ พ.ศ. 8 ได้มีพญาทั้ง 5 ได้นำพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าไปบรรจุที่พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม โดยมีพระมหากัสสปะเถระและพระอรหันต์ 500 องค์ เป็นประธาน อีกพวกหนึ่งได้นำพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานบรรจุไว้บนภูเขาลอย




ตามประวัติว่าตามที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพานแล้วที่เมืองกุสินารา หลังจากถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว โทณพราหมณ์ได้แจกพระธาตุไป 8 พระนครแล้ว อยู่มามีเมือง ๆ หนึ่งไปขอพระธาตุทีหลังเขาพอดีพระธาตุได้แจกไปหมดแล้ว โทณพราห์มจึงเอาทะนานทองตวงเอาธาตุพระอังคาร (ขี้เถ้า) ให้มา เมื่อได้พระอังคารธาตุจึงได้เดินทางกลับมาทางทิศอิสานใต้ 

พอถึงภูเขาลูกนึงคือภูเขาลอย มีรูปลักษณะสวยงามรูปร่างเหมือนรูปพญาครุฑนอนคว่ำหน้า จึงมีความคิดว่าน่าจะนำพระอังคารธาตุบรรจุไว้ที่แห่งนี้ เมื่อลงความเห็นเป็นอันเดียวกันแล้ว จึงได้สร้างสถานที่บรรจุพระอังคารธาตุไว้ที่ไหล่ข้างซ้ายของพญาครุฑและเปลี่ยนชื่อภูเขาลอยเป็นภูเขาพระอังคาร ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา



ที่มา : nangronghotel.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น