
วัดโพธิ์ กรุงเทพมหานคร สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ 24 ของโลก ในปี พ.ศ.2549 นอกจากจะเป็นพุทธสถานที่สำคัญแล้ว ภายในยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของไทย รอให้ไปเยี่ยมชมอีกมากมาย



วัดโพธิ์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดพระเชตุพลวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือในสมัยก่อนเรียก วัดโพธาราม มีพื้นที่กว่า 50 ไร่ ถือเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงให้นำตำราวิชาการด้านต่างๆ มาจารึกไว้โดยรอบ อาทิ ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม และการแพทย์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน จึงได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย






ภายในวัดโพธิ์เต็มไปด้วยพระพุทธรูปและพระเจดีย์จำนวนมาก เป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากสุดในประเทศไทย สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือ เขตวัดโพธาราม (เดิม) ประกอบด้วย วิหารพระพุทธไสยาส สถานที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสองค์ใหญ่ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3
มีลักษณะปิดทองทั่วทั้งองค์ พระบาทซ้ายและขวาซ้อนเสมอกัน บริเวณพระบาทประดับมุกภาพมงคล 108 ประการ อันเป็นลักษณะของมหาบุรุษตามคติความเชื่อจากชมพูทวีปและจีน

พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ ตั้งอยู่ถัดจากพระอุโบสถ ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว
สถาปัตยกรรมบริเวณซุ้มประตูมีลักษณะเป็นไทยประยุกต์แบบจีน องค์พระเจดีย์เป็นแบบเจดีย์ย่อไม้สิบสอง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ


เขตพระอุโบสถ เป็นเขตที่สถาปนาขึ้นใหม่นอกเขตวัดโพธารามเดิม สร้างตามคติไตรภูมิ
โดยให้พระอุโบสถเป็นเสมือนเขาพระสุเมรุ และให้วิหารทิศทั้งสี่
เป็นเสมือนทวีปหลักทั้งสี่ ประกอบด้วย พระอุโบสถ ภายในประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงอัญเชิญมาจากวัดศาลาสี่หน้า

สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 นับเป็นพระเจดีย์ที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับพระเจดีย์อื่นๆ
และได้รับยกย่องว่าเป็นพระเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองที่มีความงดงามที่สุดของกรุงรัตนโกสินทร์




เมื่อเดินทางมายังวัดโพธิ์ นอกจากชมสถาปัตยกรรม อาคาร พระเจดีย์ต่างๆ แล้วต้องมาชมรูปปั้นฤๅษีดัดตนศิลปะวิทยาการที่สืบทอดมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งจำนวนของรูปปั้นฤๅษีดัดตนที่สร้างในรัชกาลที่ 1 นั้นไม่ทราบจำนวนแน่ชัด ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ได้หล่อรูปปั้นฤๅษีดัดตนในท่าต่างๆ รวม 80 ท่า โดยใช้สังกะสีและดีบุกพร้อมแต่งโครงสี่สุภาพบรรยายสรรพคุณของท่าฤๅษีดัดตน
ปัจจุบันเนื่องจากการเคลื่อนย้าย และลักลอบนำขายจึงเหลือรูปปั้นฤๅษีดัดตนเพียง 24 ท่า ซึ่งเป็นที่มาของศาสตร์การนวดแผนโบราณในปัจจุบัน

วัดโพธิ์ยังโดดเด่นและมีสิ่งที่มีชื่อเสียงอีกหลายจุด โดยเฉพาะเอกลักษณ์ของยักษ์วัดโพธิ์
บริเวณซุ้มประตูทางเข้าพระมณฑป ซึ่งมีสีกายเป็นสีแดงและสีเขียว คล้ายยักษ์ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.
ค่าธรรมเนียมเข้าชม คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติคนละ 100 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สำนักงานวัดโพธิ์ โทร. 0 2226 0335, 0 22260369
เว็บไซต์ : www.watpho.com
การเดินทาง พิกัด13.746978,100.49327
แนะนำให้มารถโดยสารประจำทางสาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 43, 44, 47, 53, 60, 82, 91, 123, 501, 508
หรือเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา โดยไปลงที่ท่าเตียน จากนั้นสามารถเดินตรงขึ้นไปยังวัดโพธิ์ได้
ที่มา : thetrippacker ,thailandtopvote.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น