
เรื่องน่ารู้วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ศาสนสถานเอกลักษณ์ประจำกรุงรัตนโกสินทร์ ที่งดงามด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมงานศิลป์ ควรค่าแก่ความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน
หากเอ่ยถึง "วัดอรุณฯ" หรือ "วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร" เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยเพราะความงดงามทางสถาปัตยกรรมอันประเมินค่าไม่ได้ แถมยังตั้งเด่นเป็นสง่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลายเป็นสัญลักษณ์ความสวยงามประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก และเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน วันนี้เราเลยถือโอกาสพาเพื่อน ๆ ไปชมความงามและทำความรู้จักกับวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ให้มากขึ้นกัน

2. วัดอรุณฯ เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า "วัดมะกอก" แต่เมื่อครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระราชประสงค์ย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี โดยกรีธาทัพมาทางชลมารค และมาถึงหน้าวัดมะกอกเอารุ่งสาง จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดแจ้ง" จวบจนสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เถลิงถวัลยราชสมบัติ แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ พระองค์เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 จึงทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อจนเสร็จ โดยพระราชทานนามวัดว่า "วัดอรุณราชวราราม" และกลายเป็นวัดประจำรัชกาลในพระองค์

3. พระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ถือได้ว่าเป็นศิลปกรรมที่สง่าและโดดเด่นที่สุด ก่อสร้างโดยช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญ บนพระปรางค์ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน ซึ่งมีลวดลายงดงามเป็นของเก่าแก่และหายาก โดยได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5
4. บริเวณโดยรอบพระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ประกอบด้วยพระปรางค์เล็ก 4 องค์ รอบ 4 ทิศ ภายในมีรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ กำแพงแก้วกั้น มีฐานทักษิณ 3 ชั้น มีรูปปั้นมารและกระบี่แบกฐานสลับกัน นอกจากนั้นมีซุ้ม 4 ซุ้ม มีพระนารายณ์อวตาร เหนือขึ้นไปเป็นยอดปรางค์ มีเทพพนมนรสิงห์เพื่อปราบยักษ์
5. ปัจจุบันพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้ดำเนินการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้งตั้งแต่ประมาณวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556 และได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ประสบปัญหาพระปรางค์ทรุดโทรมอย่างหนักมาโดยตลอด และเตรียมจัดงานสมโภชครั้งยิ่งใหญ่ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ถึง 5 มกราคม พ.ศ. 2561 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "พระปรางค์วัดอรุณฯ บูรณะเสร็จเรียบร้อย พร้อมจัดพิธีสมโภชอย่างยิ่งใหญ่"
6. สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมพระปรางค์วัดอรุณฯ ควรแต่งกายอย่างสุภาพ และใช้ความระมัดระวังในการเดิน เพราะบันไดค่อนข้างสูงและชัน และบางช่วงก็ค่อนข้างแคบ รวมถึงไม่ควรสัมผัสหรือทำการใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์พระปรางค์ทั้งสิ้น

8. จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ ในวัดอรุณฯ ได้แก่


- พระวิหารหลวง เข้าสักการบูชาพระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร พระประธานประจำพระวิหารหลวง และสักการะพระอรุณ หรือพระแจ้ง พระพุทธศิลป์แห่งลานช้าง
- หอสมุดสมเด็จพระพุฒาจารย์ แหล่งรวมหนังสือธรรมะ, ชีวประวัติพระสงฆ์-เกจิอาจารย์, ประวัติวัดต่าง ๆ, พระไตรปิฎก, คู่มือนักธรรม, คู่มือเปรียญธรรม (บาลี), และวารสารต่าง ๆ และสักการบูชาพระบรมศาสดาศากยมุนีพุทธเจ้าและพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า แกะสลักจากไม้จันทน์หอม
- พระอุโบสถน้อย-พระวิหารจุฬามณี เข้าสักการบูชาหลวงพ่อรุ่งมงคล พระประธานประจำพระอุโบสถน้อย, สักการบูชารูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, ชมพระแท่นวิปัสสนา, ชมพระแท่นบรรทมของรัชกาลที่ 2, สักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ในพระเจดีย์จุฬามณี และบูชาท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4
9. ช่วงเวลาแนะนำสำหรับการมาเที่ยววัดอรุณฯ แนะนำให้มาช่วงเช้าหรือช่วงเย็นของวัน เพราะว่าแดดจะไม่ร้อนมากแถมบรรยากาศกำลังดีอีกด้วย

10. วัดอรุณฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น. (คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 40 บาท)
11. การเดินทางมายังวัดอรุณฯ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกทั้งทางเรือและทางรถ
- ทางเรือ สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเตียน หลังจากนั้นนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งพระนครมาลงท่าเรือหน้าวัดอรุณฯ ได้เลย
- ทางรถ จากถนนปิ่นเกล้า เลี้ยวเข้าถนนอรุณอมรินทร์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลศิริราช ตรงมาเรื่อย ๆ ยังกรมอู่ทหารเรือ จะเห็นทางเข้าวัดอรุณฯ อยู่ถัดไปไม่ไกล
วัดอรุณฯ จึงนับเป็นอีกหนึ่งศาสนสถานสำคัญที่ทรงคุณค่า งดงามด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมมากมายที่ควรค่าแก่การศึกษา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราคนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ลองหาวันหยุดว่าง ๆ สักหนึ่งวัน แล้วมาเยี่ยมชมทัศนาความสวยงามที่วัดอรุณฯ ด้วยกันนะคะ ^^ ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02 891 2185 หรือเว็บไซต์ www.watarun.org
ขอขอบคุณข้อมูลจากwatarun.org และ dhammathai.org,travel.kapook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น